"การติดต่อ Resume(ผู้สมัครงาน) " ข้อมูลจะเปิดเผยเฉพาะสมาชิก
สำหรับสมาชิก ต้องทำการ เข้าระบบ ก่อน
ผู้ที่ยังไม่เป็นสมาชิกสามารถ ลงทะเบียนได้ที่นี่
หรือสามารถติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ 02-001-8800, 061-390-7800, 02-351-0087
สำหรับสมาชิก ต้องทำการ เข้าระบบ ก่อน
ผู้ที่ยังไม่เป็นสมาชิกสามารถ ลงทะเบียนได้ที่นี่
หรือสามารถติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ 02-001-8800, 061-390-7800, 02-351-0087
ข้อมูลส่วนตัว
สำหรับสมาชิกเท่านั้น
ชาย (โสด)
ไทย
พุทธ
25-ตุลาคม-2514 อายุ 51ปี
164 Cm หนัก 78 Kg
รด.
ข้อมูลการติดต่อ
สำหรับสมาชิกเท่านั้น
กรุงเทพมหานคร (ลาดพร้าว, ห้วยขวาง, วังทองหลาง)
สำหรับสมาชิกเท่านั้น
สำหรับสมาชิกเท่านั้น
สำหรับสมาชิกเท่านั้น
โทรศัพท์
ข้อมูลทั่วไป
เศรษฐศาสตร์
งานประจำ (Full Time)
70,000บาท ขึ้นไป
23 ส.ค. 2564
23 ส.ค. 2564
ประวัติการศึกษาสูงสุด
จบการศึกษาแล้ว ในปี พศ. ไม่ได้ระบุ
ปวส. หอการค้าไทย
ปริญญาตรี
เศรษฐศาสตร์
3.2
มัธยมศึกษาต้น-ปลาย สุรศักดิ์มนตรี
ม.6
3.4
ประวัติการทำงาน
0 ปี
ธันวาคม 2537 ถึง พฤษภาคม 2564
PR-CREATIVE/MARKETING
สหมงคลฟิล์ม
55/5 ซ.พหลโยธิน2 สามเสนใน พญาไท กทม.10400
สำหรับสมาชิกเท่านั้น
การเดินออกมาจากเซฟโซน ในวัยทีชีวิตกำลังจะแตะเลข5 น่าจะเป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่ไม่เลือกทำ แต่ถ้าจะมีสิ่งไหนที่เป็นตัววัดใจ และบ่งชี้ถึงสิ่งที่เรียกว่า “ลูกบ้า” และ ตัวบ่งชี้ในการรีดหรือวัดศักยภาพหรือขีดจำกัดของตัวตนของเรา คิดว่าคงไม่มีไทม์มิ่งไหนที่เหมาะสม บ้าบิ่น และท้าทายเท่ากับ การบอกกับตัวเอง และการตัดสินใจเลือกก้าวข้าม......ในช่วงเวลาที่ทั้งประเทศตกอยู่ท่ามกลางวิกฤติแห่งมนุษยชาติ ที่คนรุ่นเราจะจำชื่อนี้ไปจนวันตาย “โควิด19”
อย่างน้อยที่สุด นี่คือสิ่งที่พิสูจน์และสามารถบอกกับตัวเองได้ว่า ตัวตนของเราวันนี้ หาได้แตกต่างจาก เราเมื่อ 27-28ปีที่แล้วแต่อย่างใด
ตัวหนังสือต่อไปนี้ อาจไม่ได้ทำหน้าที่เฉกเช่น RESUME ที่ท่านผู้มีส่วนสำคัญในการพิจารณาบุคคลให้เหมาะสมกับตำแหน่งงาน ที่ได้เคยสัมผัสจนชินตาหรือบ่อยครั้ง เพราะในท้ายที่สุดแล้ว เป็นการยากทีเดียวหรืออาจเป็นเพียงแค่ส่วนเสี้ยวที่จะทำให้คนหนึ่งคนเป็นที่รู้จักของอีกหลายๆท่านตรงนี้ รวมไปถึงท่านอื่นๆในลำดับต่อไปที่เกี่ยวข้องในฐานะทีมผู้พิจารณาคัดกรองจากนี้ที่จะได้รู้จักตัวตนของผมกับสิ่งที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาของ1ใน4ของศตรวรรษที่เป็นประสบการณ์ตรงของ ผม ที่มีชื่อว่า พงษ์ฉัตร อินทรานุปกรณ์
สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จักกับทุกท่าน
“ฉัตร” คือชื่อเล่นของผมครับ ถ้าไล่ลำดับ ไทม์ไลน์ ให้เห็นภาพที่ชัดเจนขึ้น เรียนจบ เศรษฐศาสตร์ เอก การค้าระหว่างประเทศ จาก มหาวิทยาลัยหอการค้าครับ โดยรากฐานสนใจ 2 สิ่งหลักๆคือสายงานสื่อสารมวลชน และการตลาดครับ ส่งผลให้ ตอนฝึกงาน มีโอกาส ฝึกงานในฐานะผู้สื่อข่าวที่หนังสือพิมพ์ผู้จัดการไปพร้อมกับการทำงานพาร์ทไทม์ที่หลักทรัพย์ธนขาติ สมัยนั้นยังไม่เป็นแบงค์ และฝึกงานธนาคารที่ธนาคารทหารไทย ซึ่งไม่น่าเชื่อว่าสุดท้าย เกือบ3ทศวรรษต่อมาทั้ง2สถาบันการเงินที่ผมเข้าไปเกี่ยวข้องจะควบกิจการร่วมกัน
ส่งผลให้ตัวเองเริ่มงานแรกในขีวิต ในฐานะผู้สื่อข่าวหนังสือพิมพ์คู่แข่ง เมื่อสัก28ปีที่แล้ว และเปิดประตูแห่งโอกาสสำคัญในชีวิตนั่นคือได้มีโอกาสสัมภาษณ์แบบมาราธอนกับเจ้าของและประธานแห่งอาณาจักรใบโพธิ์ เสี่ยเจียง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ แห่งสหมงคลฟิล์ม ก่อนที่หลังจากเทปอนาล็อคกดปุ่มstop พร้อมกับการถูกชักชวนจากเสี่ยให้มาทำงานที่สหมงคลฟิล์ม โดยบอกว่า ให้มาทำในฝ่ายโฆษณา และหลังจากนั้น ชีวิตในฐานะ FILMCOOKING ก็ได้เริ่มต้นขึ้นพอหลับตานึกภาพแล้วลองลืมตาขึ้นใหม่เผลอแพล็บเดียววันเวลาก็ผ่านไปอย่างรวดเร็วมาจนถึงปัจจุบัน
หลากหลายประสบการณ์ที่เกิดขึ้นถ้าถ่ายทอดเป็นตัวหนังสือคงเล่าได้ไม่หมดอย่างแน่นอน ผมขอรวบรัดให้เห็นภาพพอสังเขปนะครับว่า filmcooking ในความหมายนั้นเกิดเป็นภาพอะไรบ้าง การใช้ทุกทักษะ ประสบการณ์ และทุกช่องทางในการที่จะผลักดัน ให้ “ภาพยนตร์” 1เรื่อง เป็นที่รู้จัก กระตุ้นเร้า ไปจนภึงขั้นให้คนดูเกิดความรู้สึกหลงรัก ทั้งหมดทั้งมวลเพื่อสร้างแรงจูงใจให้ผู้ชมตัดสินใจที่จะซื้อตั๋วชมภาพยนตร์ โดยอาศัย สิ่งที่เรียกว่า MOVIE MARKETING ผมขอเหมารวมชัดๆคือ การทำประชาสัมพันธ์ การตลาด อีเวนท์ โปรโมชั่น โดยใช้เครื่องมือทุกประเภทสำหรับการโปรโมทภาพยนตร์ เพียงแต่ที่สหมงคลฟิล์ม ไม่ได้ผลิตหรือจ้ดจำหน่ายหนังหรือสร้างหนังแค่ปีละ2เรื่อง เพราะที่นี่ คือบริษัทที่นำเข้าหนังเยอะที่สุดของเมืองไทย มีทั้งสร้างหนังไทย ,นำเข้าและจัดจำหน่ายหนังจากต่างประเทศทั้งหนังฟอร์มยักษ์ระดับบล็อคบัสเตอร์ของฮอลลีวู้ด เอเชีย ยุโรป หนังแมสไปจนถึงหนังนอกกระแสหรือหนังอาร์ท พูดได้ว่า 48สัปดาห์มีหนังยืนพื้นเข้าฉายสัปดาห์อย่างต่ำละ1-2เรื่อง ไม่รวมถึงหนังในโปรเจกต์พิเศษต่างๆ รวมไปถึงหนังฟอร์มยักษ์ระดับบล็อคบัสเตอร์จากทั้งฝั่งซีกโลกตะวันตกและตะวันออก
ตลอด27ปีมีหลากหลายสิ่งที่ทำให้ผมเข้าไป เรียนรู้ สัมผัส ถูกคิดค้น สร้าง และวางรากฐานขึ้นมาจากศูนย์ นอกจากความรับผิดชอบหลักๆๆ ในช่วงครึ่งขีวิตแรกของการทำงาน คือการ ใช้ MOVIE MARKETING ในส่วนของ
1.การดีลสื่อทุกแขนง ในฐานะพีอาร์ ที่จะปั้นหนังแต่ละเรื่อง การติดต่อดีลงานกับ สื่อทีวี,วิทยุ สิ่งพิมพ์ หนังสือพิมพ์ นักวิจารณ์,นักเขียน เพื่อที่จะนำทุกสิ่งอย่าง จุดเด่น จุดขาย ของหนังแต่ละเรื่องให้ บรรดาสื่อที่รัก นำเสนอและถ่ายทอดออกไป
2.สายงานครีเอทีฟ ทั้งหมด ตั้งแต่ copy writer ในการคิด คำโฆษณาในทุกสื่อ สปอตทีวี,วิทยุ ,คำโปรยในแอด ,โปสเตอร์ สื่อสิ่งพิมพ์ทุกชนิด ควบคุมและผลิตสื่อโฆษณาทั้งภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวในทุกชิ้นงาน
3.สายงานอีเวนท์ แน่นอนว่าหนังทุกเรื่องจะต้องมีการแถลงข่าว,เปิดตัวไปจนถึงรอบสื่อมวลชน การรังสรรค์งานอีเวนท์เหล่านี้ให้เกิดขึ้น การติดต่อดีลพิธีกร รวมถึงการเขียนสคริปต์ของงานต่างๆเหล่านี้
4.สายงานพีอาร์กอง แต่ผมอยากจะเรียกว่า พีอาร์ครีเอทีฟมากกว่า เราสร้างยูนิตนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษ ที่ต่อมากลายเป็นอีกหน่วยงสยสำคัญที่หลายๆบริษัทก็เซ็ทยูนิตนี้ขึ้นมาตามเรา ซึ่งกลายเป็นบทบาทสำคัญสำหรับภาพยนตร์ไทย
ลองนึกภาพ บริษัทหนังที่นอกจากจะมีหนังต่างประเทศเข้าฉายปีละนับร้อยเรื่องแล้ว ยังสร้างหนังไทยที่ประสบความสำเร็จ ไม่ว่าจะเป็น องค์บาก,ต้มยำกุ้ง,บอดี้การ์ดหน้าเหลี่ยม,7ประจัญบาน ,อารมณ์ อาถรรพณ์ อาฆาต ,เฮี้ยน,โหมโรง,พุ่มพวง,มนต์เพลงลูกทุ่งเอฟเอ็ม,ปอบหวีดสยอง,ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช,แหยมยโสธร,วงษ์คำเหลา,สาระแนห้าวเป้ง,สาระแนเห็นผี,สิ่งเล็กเล็กที่เรียกว่ารัก ,ขุนพันธ์ ฯลฯ ในปีที่พีคๆ เราสร้างหนังไทยถึงปีละ15เรื่อง การสร้างทีมพีอาร์กองที่เข้าไปประจำภาพยนตร์ตั้งแต่เปิดกล้องจนถ่ายทำเสร็จและโปรโมท ซึ่งสร้างขอบเขตและรูปแบบของงานแบบครบวงจร คือการนำเอาประสบการณ์ของข้อ1-3มาสร้างรูปแบบการจัดการของหนังไทยเรื่องนั้นๆโดยเฉพาะตั้งแต่ตั้งไข่ ก่อนการเปิดกล้องถ่ายทำ บวงสรวง สร้างผลิตเนื้องานทั้งหมดตลอดการถ่ายทำ ไปจนถึงการโปรโมท เดินสาย ออกสื่อ ไปจนถึง การแถลงข่าวเปิดตัว จนกระทั่ง รอบปฐมทัศน์ และภาพยนตร์เข้าโรงฉาย
เหตุที่เรียกว่า พีอาร์ครีเอทีฟ คือ เราคือคนแรกที่รู้จักหนัง เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนทีมพีอาร์ ก่อนสื่อมวลชน ก่อนคนดู เราคือ ทัพหน้า ที่จะต้องมมีpassion ที่จะบอกต่อให้โลกรู้ว่า หนังเรื่องนี้ มีดีตรงไหนอย่างไร การคิด ออกแบบจากตัวหนังสือจากบท ในขณะที่นักแสดงผกก. ทำการแสดงและกับในแต่ลคิวถ่าย เราต้องทำการบ้านและเข้าสู่สนามการถ่ายทำในแต่ละคิวถ่ายนั้น ๆ วันนี้จาพนม จะต้องกระโดนสะพานแขวน เราจะต้องเตรียมที่จะไปทำเนื้องาน ทำสัมภาษณ์ ทำสกู๊ปใดๆ ในวันนั้น และ เราต้องวางแผน เตรียมเนื้อหาทั้งหมดของภาพยนตร์เรื่องนั้น และไกด์ไลน์ว่า สิ่งที่จะให้ จาพนม พูดอะไรนำเสนออะไรใน หนังเรื่องนี้ เพื่อ กระแทกใจคนดูนั้นหมายความว่าทุกคิวของการถ่ายทำที่เราเข้าไปคลุกอยู่ในกองการถ่ายทำตั้งแต่แรกเริ่มจนกระทั่งปิดกล้อง ถ่ายโปสเตอร์ สัมภาษณ์ทุกขิ้นงาน ข่าวทุกตัว เบื้องหลังสกู๊ปต่างๆๆ ที่ปรากฎในทุกช่องทางของสื่อที่มีการนำเสนอออกไป ที่เราจะต้องผลิตและนำเสนอออกมา การคิดงานเหล่านี้เพื่อให้นักแสดง ผกก.ทีมงาน รวมไปถึงทีมพีอาร์แต่ละแขนงจะต้องนำเสนอและถ่ายทอดออกไปสู่สาธารณะชน
5.สายงานmarketing ในการดีลให้เกิดSPECIAL EVENT หรือการทำโปรโมชั่นต่างๆเพื่อกระตุ้นความสนใจของภาพยนตร์ ไปจนถึงการร่วมกับพาร์ทเนอร์หรือพันธมิตรทางธุรกิจไปจนถึงการหาสปอนเซอร์ เนื่องจากสหมงคลฟิล์มมีทั้งในส่วนหนังไทยที่สร้างหรือผลิตและหนังต่างประเทศทีนำเข้าและจัดจำหน่าย การทำMOVIE MARKETING ดีล ที่นำเอาข้อ1-4มาสร้างฐานเพื่อให้เกิดรูปแบบการทำMOVIE MARKETING ในข้อที่5 การทำ TIE-IN PRODUCT PLACEMENT การสร้างคอนเทนท์ เพื่อที่จะไปขายสปอนเซอร์ การดีลกับลูกค้า ลองนึกภาพ ไทยประกันชีวิตที่ปรากฎอยู่ในภาพยนตร์ การดีลตั้งแต่สร้างช็อตซีนในหนังนำเสนอลูกค้า การขายงานMARKETING ที่รวมถึงการคิดรูปแบบของโปรโมชั่นส่งเสริมการขายต่างๆ อาทิ ระเบิดความมันส์กับจอมขมังเวทย์ในเครือเอสเอฟลุ้นรับ นาฬิกาCITIZEN รุ่นS.E.A limited edition ที่มีเพียง1999เรือนในโลก รวมมูลค่ากว่า3แสนบาท แน่นอนว่าสารพัดอีเวนท์เหล่านี้ รวมไปถึงการผลิตสื่อโปรโมท พีอาร์และการเลือกรูปแบบการดีลทั้งหมดก็เป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องที่เราต้องทำ จ็อบสุดท้ายที่ทำคือ การสร้างดีล แจกมอเตอร์ไซด์EV BIKE รถไฟฟ้ารวมมูลค่าแสนกว่าบาทกับหนังแอคชั่นฟอร์มยักษ์ที่ได้2ซุปตาร์แห่งเอเชีย กงยูกับพัคโบคอม นำแสดงอย่าง ซอบก
ความท้าทายในส่วนของการทำMOVIE MARKETNG ของหนังไทยคือ การที่เราคือคนแรกที่จะต้องทำหน้าที่สื่อสารและทำให้พาร์ทเนอร์หรือลูกค้ารู้จักหนังเรื่องนี้ เพื่อชักชวนให้มาเป็นสปอนเซอร์หนังตั้งแต่หนังยังไม่เปิดกล้องถ่ายทำ การปั้นโปรเจคต์ตั้งแต่ศูนย์ บางครั้งอาจยังไม่สรุปนักแสดง พูดได้ว่าหัวใจของ การทำงานลักษณะดังกล่าวคือการทำ EMOTIONAL MARKETING อย่างแท้จริง ทำอย่างไรที่จะทำให้จับหัวใจพาร์ทเนอร์ให้อยู่หมัดจาก ตัวหนังสือจากบทภาพยนตร์
เหล่านี้คือ ขอบเขตการทำงานและประสบการณ์พอสังเขป ยังมีอีกมากมายเพราะ27ปีกับหนังจำนวนมหาศาลที่เราฝังชีวิตลงไป ในอาชีพfilmcooking คือสิ่งที่เชื่อว่าไม่ใข่ทุกคนจะได้มาแบบเรา การนอนวันละ3ชม.เป็นเรื่องธรรมดา หรือการเข้ากองลุยไปกับอนันดา พี่น้อยวงพรู กับนักแสดง กับผกก.ที่ระดับแถวหน้าของเมืองไทย ซัดกันแบบนันสต็อปถ่ายต่อเนื่อง36ชั่วโมงหรือ เข้ากองประเภท6โมงเช้ายัน6โมงเช้าอีกวัน กลายเป็นเรื่องที่เล่าขานได้ไม่จบสิ้น เพราะสิ่งเหล่านี้คือวัตถุดิบสำคัญที่จะนำมาใช้ในการโปรโมทภาพยนตร์เรื่องนั้นๆ ต่างจากภาพยนตร์ต่างประเทศที่ ทุกอย่างผ่านขั้นตอนการถ่ายทำมาจนจบสิ้นแล้ว
รายละเอียดของตัวหนังสือสองสามหน้านี้ยังสั้นกว่าเรื่องราวอีกมากมายที่เกิดขึ้น ถ้าอยากรู้ว่าขีดจำกัดและศักยภาพ และประสบการณ์ทั้งชีวิตแบบ360องศาของจริงและการได้ทำงานกับคนที่เก่งที่สุดผู้กำกับตั้งแต่ระดับท่านมุ้ย พี่หม่ำ จนถึงมะเดี่ยว และนักแสดงระดับเทพอีกหลายๆคนให้อะไรกับเราบ้างและเราสร้างและปั้นแนวทางในการโปรโมท ทุกไทม์ไลน์ของหนัง1เรื่องตั้งแต่บวงสรวงจนถ่ายทำปิดกล้องหรือกับหนังต่างประเทศที่ซื้อมาเราจะใช้กลยุทธ์ของการทำfilmcooking หรือแม้แต่เหล่าสารพัดconsumer product ต่างๆ ถ้าเราจะปั้นให้ติดและเป็นที่รู้จักจนถึงเรียกความนิยมและความสนใจ เราทำอะไรได้บ้าง มาเจอกันซิครับ เพราะในทุกสรรพสิ่งรอบตัวยังมีอะไรอีกมากมาย ของการเปิดโลกของ MARKETING ,PR,EVENT ฯลฯ ที่ผมเชื่อว่าทิศทางจะเปลี่ยนไปทุกๆสิบปี สิ่งเหล่านี้จะถูกเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว ซึ่งผมเรียกว่าเป็นการทำการตลาดแบบ “ใยแมงมุม” สำหรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในยุคนี้
เลยเป็นการยากที่ผมจะระบุตำแหน่งของสายงานในปัจจุบัน ว่าเราจะพาตัวเราไปวางอยู่ ณ จุดไหนดี เพราะตลอด27ปีก็ไม่เคยสมัครงานอีกเลย พอมาเจอฟอร์แมท แพทเทิร์น แบบ ที่มีการวางรูปแบบ หรือแบบฟอร์มในการจัดการที่แยกตำแหน่งสายงานอย่างชัดเจนของเวบไซต์จัดหางานเช่น สายการตลาด ซึ่งก็แบ่งย่อยหลากหลาย,สายครีเอทีฟ ,สายพีอาร์ และที่สำคัญจะสอดคล้องจัดเต็มตรงกับความต้องการที่ชัดเจนของแต่ละองค์กรแค่ไหนนะครับ....ขอทิ้งท้ายเป็นคำถามกลับไปยังแต่ละท่านด้วยนะครับ
ขอขอบพระคุณที่ตั้งใจอ่าน สิ่งที่เรียกว่าresume รึเปล่ามา ณ ที่นี้นะครับ
ท้ายสุดแต่ไม่สุดท้าย ถ้าเราได้มีโอกาสเจอกันนะครับ ก้าวสู่ครึ่งปีหลังของปีที่ โควิดเล่นงาน "มนุษย์โลก"
หนักหน่วงที่สุดพลังบวก+โอบกอด+รอยยิ้ม และกำลังใจ คือสิ่งที่มีค่าและจริงที่สุด ช่วยกันมีและใช้มันอย่างฟุ่มเฟือยที่สุดที่เราสามารถเพื่อเราทุกคนและที่รักของเรา สวัสดีครับ.....ฉัตร 081-421-8213
ไม่ได้ระบุ
ผู้สื่อข่าว
หนังสือพิมพ์คู่แข่ง
อาคาร มอนทาเรย์ ถ.เพชรบุรี
สำหรับสมาชิกเท่านั้น
ผู้สื่อข่าวสายเรียลเอสเตรท, หน้าหนึ่ง,ศิลปะวัฒนธรรม
ประวัติการฝึกอบรม
ไม่ได้ระบุ
หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ
ผู้สื่อข่าวฝึกหัด
ไม่ได้ระบุ
ธนาคารทหารไทย
นายธนาคารฝึกหัด
ความสามารถ
ความสามารถทางภาษา
พูด (ดีมาก) อ่าน (ดีมาก) เขียน (ดีมาก)
พูด (พอใช้) อ่าน (พอใช้) เขียน (พอใช้)
ไทย คำ/นาที อังกฤษ คำ/นาที
พูด (ดีมาก) อ่าน (ดีมาก) เขียน (ดีมาก)
พูด (พอใช้) อ่าน (พอใช้) เขียน (พอใช้)
ไทย คำ/นาที อังกฤษ คำ/นาที
โครงการ / ผลงาน / เกียรติประวัติ / บุคคลอ้างอิง
ชื่อ พงษ์ฉัตร อินทรานุปกรณ์ (ฉัตร)
อายุ 50ปี เพศ ชาย สูง164ซม. น้ำหนัก73กิโลกรัม
ที่อยู่ 289 ซ.ลาดพร้าว4 แขวง สะพานสอง เขต บางกะปิ กรุงเทพฯ 10310
เบอร์โทรศัพท์ 0814218213 อีเมล์ [email protected]
การศึกษา ปริญญาตรี คณะเศรษฐศาสตร์ เอก การค้าระหว่างประเทศ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ประวัติการฝึกงาน
-ปีพ.ศ.2536 ผู้สื่อข่าวฝึกหัดหนังสือพิมพ์ผู้จัดการ / โครงการฝึกงานธนาคารทหารไทย
- พนักงานชั่วคราว บริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ธนชาติ
ประวัติการทำงาน
-ปี พ.ศ.2537 ผู้สื่อข่าว หนังสือพิมพ์คู่แข่ง (แผนก เรียลเอสเตรท,ข่าวหน้าหนึ่ง,,ศิลปวัฒนธรรมบันเทิง) (ระยะเวลา1ปี)
- ปีพ.ศ.2537-2564 บริษัทสหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (ระยะเวลา 27ปี)
รายละเอียดประสบการณ์ บทบาทหน้าที่และความรับผิดชอบ ที่บ.สหมงคลฟิล์ม อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด
ด้วยระยะเวลาตลอด27ปี ได้มีโอกาสรับผิดชอบและมีบทบาทในหลากหลายส่วนที่เกี่ยวโยงกับธุรกิจในเครือสหมงคลฟิล์ม ทั้งในส่วนของภาพยนตร์ ทั้งภาพยนตร์ต่างประเทศ และภาพยนตร์ไทย ที่บริษัทนำเข้าและจัดจำหน่ายจากต่างประเทศรวมถึงในฐานะผู้สร้างผู้ผลิตภาพยนตร์ไทย และ ในส่วนของโรงภาพยนตร์ ในเครือ สหมงคลฟิล์ม ทั้ง โรงภาพยนตร์มงคลซีนีม่าและโรงภาพยนตร์UMG (RCA+บางพลี)ก่อนจะ กลายเป็นโรงภาพยนตร์เอสเอฟและHOUSE ในปัจจุบัน โดยมีหน้าที่หลักๆใน3ส่วนใหญ่ๆที่ครอบคลุมในการโปรโมททั้งหมดคือ งานในส่วนครีเอทีฟ, งานในส่วนประชาสัมพันธ์ และงานในส่วนการตลาด โดยได้มีส่วนสำคัญในวางรางฐานและสร้าบรูปแบบของการทำงาน ตลอดจนโครงสร้างและผลิตงานในทั้ง3สายงานหลักตั้งแต่เริ่มต้น
สายงานในส่วนครีเอทีฟ
หน้าที่รับผิดชอบ คิดสร้างสรรค์ ปรุงแต่งไอเดีย แปรจุดแข็งจุดขายของภาพยนตร์แต่ละเรื่องเพื่อผลิตเป็นชิ้นงานในการที่จะโปรโมท ประชาสัมพันธ์สื่อสารออกไปในทุกช่องทาง ตั้ง แต่
1.เป็นการใช้สายงานครีเอทีฟเพื่อผลิตสื่อโฆษณา) ตั้งแต่การคิดชุดคำ COPY WRITER)ที่จะปรากฎลงบนโปสเตอร์ ,สื่อโฆษณาทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ ,บิลบอร์ด,คัทเอาท์,โชว์การ์ด ไปจนถึง การผลิตสื่อเคลื่อนไหวตั้งแต่ สปอตทีวีซีน ,สกู๊ปเบื้องหลัง ,ตลอดจนสปอตวิทยุ และ คลิป ,สกู๊ปคอนเทนท์พิเศษ ที่จะใช้ในการโปรโมทภาพยนตร์ 1เรื่อง (
2.เป็นการใช้สายงานครีเอทีฟเพื่อผลิตสื่อและสื่อสารในงานประชาสัมพันธ์ สร้างและผลิตเนื้อหาข้อมูลคอนเทนท์ ตั้งแต่ การสร้างข้อมูลงานสร้างและเนื้อหาโดยรวมของภาพยนตร์แต่ละเรื่อง(PRODUCTION NOTE) รวมถึงบทสัมภาพยนตร์นักแสดง,ผู้กำกับทีมงาน,ผู้สร้าง ตลอดจนสกู๊ปข่าวประชาสัมพันธ์ของภาพบนตร์ทุกชิ้นของภาพยนตร์เรื่องนั้นๆๆ ตั้งแต่ข่าวบวงสรวงภาพยนตร์ก่อนการเปิดกล้อง ไปจนถึงการถ่ายทำ และช่วงโปรโมทก่อนหนังเข้าจนถึงการแถลงข่าว และการเปิดตัวภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ ซึ่งจะต้องผลิตขึ้นมาเพื่อส่งประชาสัมพันธ์ต่อไปยังสื่อมวลชนทุกแขนง ทั้งสื่อสิ่งพิมพ์ แมกาซีน หนังสือพิมพ์ ,วิทยุด ดีเจ ,นักวิจารณ์ ,นักเขียนรวมไปถึงสื่อออนไลน์
3.เป็นการใช้สายงานครีเอทีฟในการผลิตสร้างสรรค์ อีเวนท์ ,คอนเทนท์ต่างๆขึ้นมาโดยเข้าไปมีส่วนตั้งแต่เริ่มต้น คือนับเป็นศูนย์ โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทย ซึ่งเริ่มต้นตั้งแต่ภาพยนตร์ยังไม่เริ่มต้นถ่ายทำ โดยเริ่มตั้งแต่การมีเพยงแค่บทภาพยนตร์ สร้างสรรค์ผลิตขึ้นมาเป็นข้อมูลหลัก ตลอดจนคิดรูปแบบประสานงานกับทีมงานภาพยนตร์จัดงาน บวงสรวงเปิดกล้องภาพยนตร์ บรีฟนักแสดงผู้กำกับถึงประเด็นที่จะสื่อสารกับสื่อมวลชน เป็นภาพจำแรกของภาพยนตร์ และในระหว่างการถ่ายทำของภาพยนตร์ อาทิ องค์บาก หรือต้มยำกุ้งที่ใช้เวลาถ่ายทำ3ปี คือการวางไอเดียจากบทและตารางการถ่ายทำ โดยเข้าไปผลิตสร้างคอนเทนท์สดๆในกองถ่ายจาก ฉากหรือซีนสำคัญในภาพยนตร์ อาทิ วันนี้เรามาดูจาพนม กระโดนสะพานแขวน หนีการไล่ล่ามอเตอร์ไซด์แว๊น300คันบนถนพระราม3โดยมีการปิดถนนและใช้เฮลิคอปเตอร์ในการถ่ายทำ โดยทั้งหมดเป็นการถ่ายทำนรูปแบบ3D โดยวางโจทย์ให้จีจ้า เป็นMC ซึ่งตลอดคิวถ่าย200คิว เราต้องแพลนและเตรียมตัวว่าจะเข้าไปทำอะไรในการถ่ายทำนั้นๆของภาพยนตร์แต่ละรื่อง จนกระทั่งการแถลงข่าวเปิดตัวแนะนำภาพยนตร์ ที่เรามีหน้าที่ในการเขียนสคริปต์งานแถลงข่าว ดีลพิธีกร ทำคิวสัมภาษณ์บนเวทีของนักแสดง ผู้กำกับ ผู้สร้าง ตลอดจนคิดคอนเซ็ปท์และควบคุมงานแถลงข่าวที่จะจัดขึ้น รวมถึงกรดีไซน์รูปแบบของงานให้มีความน่าสนใจไม่ว่าจะเป็นการนำเสนอ ทำวิดีโอพรีเซนท์ในซีเควนท์ของงานไฮไลท์ความสนุกที่เกิดขึ้นในกองถ่ายของหม่ำ จ๊กม๊ก หรือรวมไฮไลท์เสี่ยงตายของ จาพนมในการ่ถยทำ หรือไฮไลท์ฉากปะทะการแสดงของ อนันดาและ น้อยวงพรู จากขุนพันธ์ หรือการเพิ่มสีสันหรือดึงจุดขายของภาพยนตร์ด้วยการนำศิลปินนักร้องอย่างวง getsanova มาโชว์ ร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ โดยทำหน้าที่บรีฟนักแสดงผกก.ทุกคนและควบคุมรูปแบบของงานให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งรวมถึงอีเวนท์ในการโปรโมทภาพยนตร์อื่นๆ ตลอดช่วงระยะเวลาในการโปรโฒทภาพยนตร์จนถึงวันฉายภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ที่ต้องรับผิดชอบในการเขียนสคริปต์และอื่นๆๆเช่นวันแถลงข่าว
สายงานในส่วนของการทำประชาสัมพันธ์
กล่าวได้ว่า เมื่อ27ปีที่แล้ว ที่สื่อโซเชี่ยลยังไม่ได้มีบทบาทมากมาย การเข้าถึงสื่อmass หลัก ของการทำMOVIE PR .คือ การเข้าถึงพื้นที่และปูรากฐานการสร้างคอนเนคชั่นกับสื่อใหญ่ ๆตั้งแต่สื่อโทรทัศน์ รายการบันเทิงวาไรตี้ต่างๆ ทั้ง 3-5-7-9 ไปจนถึง แชนแนลวี ,ยูบีซี ไอบีซี ไทยสกายสิ่งพิมพ์ ไทยรัฐเดลินิวส์ ข่าวสด มติชน บางกอกโพสต์ เนชั่น เรื่อยไปจนถึงแมกาซีนใหญ่ๆ ในบ้านเรา สุดสัปดาห์,อิมเมจ,ผู้หญิง ไปจนถึงรายการวิทยุ ต่างๆทั้งเรดิโอโหวต, ไปจนถึงสมายเรดิโอ ,แฟต ,เวอร์จิ้น ฯลฯ รวมถึงบรรดาสื่อที่เกี่ยวกับภาพยนตร์โดยตรง ,คอลัมน์นิสต์,นักวิจารณ์ ,ดีเจ ,เซเลป ,ศิลปิน ,นักเขียน,คนมีชื่อเสียงในสายงานบันเทิงต่างๆๆ นอกจากสร้างคอนเนคชั่น และวางรูปแบบการทำประชาสัมพันธ์ให้เข้าถึงพื้นที่สื่อmassทั้งหมด โดยเราติดต่อกับสื่อทุกแขนงเพื่อส่งคอนเทนท์ ,ภาพข่าว,ภาพเคลื่อนไหว เบื้องหลังภาพยนตร์สกู๊ปบทสัมภาษณ์ตัวอย่างภาพยนตร์,คลิปพิเศษ มิวสิควิดีโอ ที่เราผลิตขึ้นมาจากสายงานครีเอทีฟแล้ว การติดต่อสื่อมวลชนทุกแขนงคือสิ่งที่เราสร้างconnection และวางรูปแบบการทำติดต่อและประชาสัมพันธ์ซึ่งหมายรวมถึงการสร้างอีเวนท์พิเศษร่วมกับสื่อต่างๆ อาทิ ร่วมกับสุดสัปดาห์ แมกาซีน แจกตั๋วเครื่องบินไปnotting hill ที่ประเทศอังกฤษ หรือ ตะลุยเด็ด7ย่านน้ำแจกตั๋วเครื่องบินกับภาพยนตร์7ประจัญบาน , หรือการจัดงาน resident evil day รวมพลสาวกแฟนเดนตายของเกมแอคชั่นสยองขวัญอันดับ1ของโลก ที่กลายมาเป็นภาพยนตร์แอคชั่นไซไฟที่คนทั้งโลกรอคอย โดยนำเกมดังของแคปคอมมาจัดเป็นเฟสติวัล และแข่งขันเกมทีสยามดิสคัฟเวอร์รี่ ตลอดจนสร้างรูปแบบการทำพีอาร์ กับอีเวนท์women sense กับหนังสือผู้หญิง เมื่อ5ผู้หญิงเก่งในวงการบอกต่อหนังผู้หญิงให้กับคนดูกลุ่มผู้หญิงกับหนังดี5เรื่องที่มีผู้หญิงเป็นตัวเดินเรื่อง ซึ่งได้ตั้งแต่นักร้อง,เซเลป,บก.นักเขียน ที่ล้วนเป็นผู้หญิงเก่ง มาเป็นผู้ถ่ายทอด อาทิ คุณกบสาวนิตย์,คุณอลิสา ทายาททิฟฟานี่,ธิดา บก.ไบโอสโคป,โหน่งพิมพ์ลักษณ์นักร้องจากค่ายเบเกอร์รี่ ซึ่งหน้าที่เราคือคิดสร้างรูปแบบการประชาสัมพันธ์ให้ภาพยนตร์แต่ละเรื่องเข้าถึงผู้ชมให้มากที่สุด ด้วยสารพัดวิธีการเพื่อให้เกิดรูปแบบของงานจริง จึงกล่าวได้ว่าช่วงแรกของการทำงานที่สหมงคลฟิล์ม คือการสร้างรูปแบบการวางโครงสร้างของวิธีการทำประชาสัมพันธ์ สร้างทั้งคอนเทนท์ ตลอดจนผลิตคิดหาปูพื้นฐานของการทำประชาสัมพันธ์และโครงสร้างของงานครีเอทีฟควบคู่กันไป ก่อนที่ช่วงหลักจากที่ องค์บาก ,สุริโยไทสร้างปรากฏการณ์ ความรับผิดชอบหลักจากที่รับผิดชอบในส่วนของทั้งหนังต่างประเทศและหนังไทย ถูกให้พุ่งน้ำหนักไปที่ภาพยนตร์ไทยอย่างเต็มตัว ในขณะที่ จีทีเอชผลิตหนังปีละ2เรื่องแต่สหมงคลฟิล์มผลิตปีละ15เรื่อง
สายงานในส่วนของการทำ MARKETING
อีกหนึ่งความรับผิดชอบที่มีส่วนสำคัญทั้งในช่วงแรกของการทำงานควบคู่ไปกับสายงานพีอาร์และครีเอทีฟ และกลายเป็นความรับผิดชอบหลักในช่วงระยะเวลาในการทำงานช่วงหลังของสหมงคลฟิล์ม โดยเฉพาะการหาพันธมิตร (partnership) ที่จะเข้ามาร่วมกับภาพยนตร์ตั้งแต่เริ่มต้นโปรเจกต์คือตั้งแต่หนังยังไม่เปิดกล้อง ยังไม่มีนักแสดง คืองานการตลาดภาพยนตร์ มีหลากหลายวิธีการ ที่อยู่บนพื้นฐานของการนำงานครีเอทีฟเข้ามาร่วมสร้างสรรค์ การคิดใช้เครื่องมือทางการตลาดมาสร้างความสำเร็จให้กับภาพยนตร์ผ่านกระบวนการคิดที่ ขอเรียกว่า ใยแมงมุม หรือmultiple ที่กล่าวได้ว่าคือหัวใจของการทำให้ภาพยนตร์ทุกเรื่องที่ผ่านมาประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบของsale promotion กิจกรรมส่งเสริมการขาย ไปจนถึงการสร้าง brand awareness จนถึงCSR กับพาร์ทเนอร์พันธมิตรที่เราจับมือร่วมกัน และ การ tie-in product (partnership)
ขอยกตัวอย่างให้เห็นรูปแบบของงานโดยกว้างๆๆดังนี้ครับ
-การทำ sale promotion ส่งเสริมการขาย ซึ่งในพาร์ทนี้ทำได้ทั้งในส่วนของภาพยนตร์ต่างประเทศและภาพยนตร์ไทย (ลองดูจากไฟล์ตัวอย่างแนบ ภาพยนตร์เรื่องซอบก ชมภาพยนตร์แจกรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า ,ภาพยนตร์จอมขมังเวทย์2020 ชิงนาฬิกาcitizen รุ่นpromaster) การคิดรูปแบบการทำmovie marketing ให้สอดคล้องกับภาพยนตร์เรื่องนั้นๆเพื่อสร้างexposure ให้กับแบรนด์และตัวภาพยนตร์ ภาพยนตร์เรื่องtarzan กับกางเกงชั้นในconnextion , ภาพยนตร์แอคชั่นของซิลเวอสเตอร์สอตลโลน driven กับยางไฟร์สโตนและอีเวนท์แข่งรถหาเจ้าแห่งความเร็ว, ภาพยนตร์เรื่องเฮี้ยนที่กวาดรายได้กว่า50ล้านเบรคเรคคอร์ดประจำปีด้วยกิมมิกเปิดตัวด้วยการเอาภาพยนตร์ไปฉายที่วัดดอนและเมื่อชมภาพยนตร์สุดหลอนเรื่องนี้ต้องมีการแจกยาดม(ท่านเจ้าคุณ)
-ซึ่งการทำmovie marketing ต้องมีการคิดรูปแบบอีเวนท์และbenefit ตอบแทนให้กับตัวพันธมิตรในอีกหลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการmeet amd greet กับนักแสดงหรือจัดรอบprivate หรือสเปเชี่ยลพรีวิวแบบexclusive รวมไปถึงการสร้างimageที่ดี ให้กับตัวสินค้า ดังเช่นภาพยนตร์เรื่องขุนพันธ์ ที่มี โควทคำพูด ที่เป็นแรงบันดาลใจจุดประกายให้คนรู้สึกถึงคุณความดีของ ตัวหนังและตัวท่านขุนพันธ์ ผ่านสปอนเซอร์อย่างไทยประกันชีวิต โดยทำเป็นไฮไลท์ โควทคำพูดพิเศษท้ายหนังพร้อมให้เครดิตไทยประกังนชีวิต ซึ่งทั้งหมดจะถูกต่อยอดไปยังอีเวนท์ต่างๆ ดังเช่น ระดมเลือด1ล้านซีซีกับBLODD HERO โครงการเชิญคนร่วมบริจาคเลือกให้สภากาชาดไทยให้ครบ1ล้านซีซี ซึ่งเกิดเป็นอีเวนท์ระดมเลือด 4จังหวัดทั่วประเทศมีการขนนักแสดง อนันดา,เป้อารักษ์ไปจังหวัดต่างๆเดินสายเพื่อผลักดันแคมเปญ กระจายจุดบริจาคที่โรงภาพยนตร์และสภากาชาดไทย มีการทำแคมเปญแจกเสื้อลิมิเตดสำหรับผู้บริจาคเลือด ฯลฯ
-การทำ TIE-IN MARKETING การนำผลิตภัณฑ์ หรือทำbranding ให้ตัวผู้สนับสนุนไปปรากฎอยู่ในภาพยนตร์ คือกระบวนการที่เราจะต้องตีโจทย์จากบทภาพยนตร์ตั้งแต่หนังยังไม่เปิดกล้อง และปรึกษากับผู้กำกับในฉากหรือซีนต่างๆในภาพยนตร์ที่จะเกิด การไทน์อินได้โดยไม่ยัดเหยียด ไม่เกิดผลลัพธ์ต่อสินค้าหรือตัวหนัง ให้มีความกลมกลืน และนำเสนอกับผู้สนับสนุนเพื่อขายซีนต่างๆ จนเป็นที่พอใจ นำไปสู่การถ่ายทำฉากดังกล่าวปรากฎอยู่ในภาพยนตร์
ถ้าเอ่ยชื่อภาพยนตร์ที่เข้าไปมีส่วนร่วมตลอด27ปีคงเอ่ยชื่อไม่หมดนะครับ ลองเอ่ยชื่อหนังของสหมงคลฟิล์มทั้งในส่วนหนังไทย และหนังเทศ ทั้งในนาม mongkol major (หนังบล็อคบัสเตอร์ของฮอลลีวู้ดและยุโรป),มงคลภาพยนตร์(หนังเอเชีย) ที่ประทับใจนะครับ แล้วผมจะเล่าและแชร์ความทรงจำและประสบการณ์ที่ผ่านมาให้ฟังครับ
ตัวอย่างของ งานที่เชื่อมโยงในส่วนของงาน ครีเอทีฟ+marketing จาก โปรเจกต์ภาพยนตร์ จอมขมังเวทย์2020+ CITIZEN
โจทย์คือมีหนังแอคชั่นฟอร์มยักษ์ประจำปี
ความรับผิดชอบคือ ตั้งแต่หาพันธมิตร เลือกผลิตภัณฑ์ที่สอดคล้องกับตัวภาพยนตร์ มีความแอคชั่น คิดแคมเปญ ดีลจนเกิดโปรเจคต์ ผลิตสื่อโฆษณา ตั้งแต่copy writer ตามmaterial เคลียร์รูปแบบ co กับกราฟฟิควาง art direction ผลิตสื่อโฆษณาทั้งหมดของแคมเปญทั้งสื่อpop สื่อสิ่งพิมพ์ ไปจนถึง ชิ้นงานในส่วนอินโฟกราฟฟิก รวมทั้งสปอตทีวีซีน เขียนข่าวประชาสัมพันธ์แคมเปญ ให้พีอาร์ส่งสื่อ ดูแลประสานงานการลงดิสเพลย์ ณ ออนโลเกชั่น ออนกราวด์ที่โรงภาพยนตร์ ประชาสัมพันธ์แคมเปญตั้งแต่เริ่มจนสิ้นสุดแคมเปญประกาศรางวัล
COPY WRITER
มันส์กับจอมขมังเวทย์2020 แล้วลุ้นไปกับCITIZEN
ทุก 2ที่นั่ง ลุ้นเป็นเจ้าของนาฬิกา CITIZEN PROMASTER รุ่น S.E.A Limited Edition จำนวน 20รางวัล มูลค่ารวม 318,000 บาท
ตั้งแต่ 14 พ.ย. 62 - 26 พ.ย. 62 ที่ เอส เอฟ เท่านั้น
จับรางวัลและประกาศผล 20 ธ.ค. 62 ทาง sfcinemacity.com
.***รายได้ส่วนหนึ่งในการจำหน่ายนาฬิกา CITIZEN PROMASTER รุ่น S.E.A Limited Edition ร่วมสมทบทุนศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเลอ่าวไทย ภาคตะวันออก เพื่อช่วยเหลือเต่าทะเล ในโครงการทำขาเทียม
ลิงก์ของ สปอตทีวี ของแคมเปญที่เราใช้โปรโมทผ่านสื่อต่างๆ ทั้งออนไลน์และออฟไลน์
https://www.youtube.com/watch?v=JV1LL8kwg3k
ตัวอย่างของงาน พรินท์แอด และอินโฟการฟฟิค ตลอดจนสื่อสิ่งพิมพ์ที่ ใช้โปรโมททั้งออนไลน์และออฟไลน์ ไปจนถึงหน้าโรงภาพยนตร์
https://web.facebook.com/Sahamongkolfilm/posts/10157772761344214
ตัวอย่างของอินโฟกราฟฟิก
บางส่วนของการทำดิสเพลย์ แคมเปญ ออนโลเกชั่น หน้าโรงภาพยนตร์
ส่วนแคมเปญ ชิงรถมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้า AJ EV BIKE กับSEOBOK
ภาพยนตร์เกาหลีฟอร์มยักษ์เรื่องสุดท้ายที่ทำในช่วงโควิด
ตามหาสุดยอดแฟนตัวจริง ดู #SEOBOK แล้วลุ้นซิ่งฟรีที่เมเจอร์!
แจกมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า AJ EV BIKE สนับสนุนรางวัลโดย AJ EV BIKE มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้ามาตรฐานระดับโลก จำนวน 2 รางวัล
1. AJ EV BIKE รุ่น Z3 จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 55,900 บาท
2.C-LIKE จำนวน 1 รางวัล มูลค่า 44,900 บาท
รวมมูลค่าทั้งหมด 100,800 บาท
กติการ่วมสนุก
1. โพสต์ตั๋ว SEOBOK ในเครือ Major (ปกติ/E-Ticket) ที่ระบุวันที่ 12 – 25 เม.ย. 64 ในช่องทางของตนเอง ได้ทั้ง Facebook, IG และ Twitter (ตั้งค่าเป็นสาธารณะ)
2. เขียนแคปชันรีวิวให้สนุกจนคนต้องออกไปดู (ห้ามสปอยล์) พร้อมติดแฮชแท็ก #SEOBOKลุ้นซิ่งฟรีที่เมเจอร์ #AJEVBIKE
ระยะเวลาจัดกิจกรรม : วันที่ 12 – 25 เม.ย. 64
ประกาศผลวันที่ 27 เม.ย. 64
#SEOBOK #ซอบกมนุษย์อมตะ
#MajorGroup #สงกรานต์ดูซอบก
สำหรับสมาชิกเท่านั้น
"การติดต่อ Resume(ผู้สมัครงาน) " ข้อมูลจะเปิดเผยเฉพาะสมาชิก
สำหรับสมาชิก ต้องทำการ เข้าระบบ ก่อน
ผู้ที่ยังไม่เป็นสมาชิกสามารถ ลงทะเบียนได้ที่นี่
หรือสามารถติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ 02-001-8800, 061-390-7800, 02-351-0087
สำหรับสมาชิก ต้องทำการ เข้าระบบ ก่อน
ผู้ที่ยังไม่เป็นสมาชิกสามารถ ลงทะเบียนได้ที่นี่
หรือสามารถติดต่อสอบถามเจ้าหน้าที่ 02-001-8800, 061-390-7800, 02-351-0087
หาพนักงาน ครีเอทีฟ, การตลาด, โฆษณา-ประชาสัมพันธ์
Copyright 2008-2025, All Rights Reserved.