เพศ (สถานะภาพ)
หญิง (โสด)

สัญชาติ
ไทย

ศาสนา
พุทธ

วันเกิด (อายุ)
07-มกราคม-2532    อายุ 34ปี

ส่วนสูง/น้ำหนัก
157 Cm    หนัก 50 Kg

สถานะภาพทางทหาร
ได้รับการยกเว้น

จังหวัด (เขต)
กรุงเทพมหานคร (บางคอแหลม, ยานนาวา, สาธร)

การติดต่อที่สะดวก
โทรศัพท์ , Email

สาขาวิชาชีพ
แพทย์/พยาบาล/เภสัชกร/สาธารณสุข

ลักษณะงานที่ต้องการ
งานประจำ (Full Time)

ระดับเงินเดือนที่ต้องการ
25,000บาท ขึ้นไป

แก้ไขข้อมูลล่าสุด
26 ก.ย. 2563

เข้าระบบครั้งสุดท้าย
26 ก.ย. 2563

การศึกษา จบการศึกษาแล้ว ในปี พศ. 2556

ประสบการณ์ทำงานทั้งหมด 7 ปี

พิมพ์ดีด
ไทย 60 คำ/นาที    อังกฤษ 60 คำ/นาที

ความสามารถการขับขี่
รถยนต์ ,รถจักรยานยนต์ ,

โครงการ/ผลงาน
โครงการวิจัยระหว่างการศึกษา


โครงงานวิชาชีพเรื่อง ผลทันทีของเวลาที่ใช้ยืดค้างในการยืดกล้ามเนื้อแบบคงค้างต่อความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างและกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังในชายสุขภาพดี (The Acute Effect of Holding Time of Static Stretching on Lower Back and Hamstring Muscle Flexibility in Healthy Men)

วัตถุประสงค์ของการวิจัย
เพื่อศึกษาผลของเวลาที่ใช้ยืดค้างในการยืดกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างและกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังในท่า Double Knee to chest แบบคงค้างต่อความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างและกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังภายหลังการยืดสิ้นสุดลงทันที

ขั้นตอนการทดลอง
1. อาสาสมัครตอบแบบสอบถามก่อนเข้าร่วมการศึกษาเพื่อนำมาพิจารณาคุณสมบัติตามเกณฑ์ในการคัดเข้าและคัดออก
2. อาสาสมัครกรอกใบยินยอมเข้าร่วมการศึกษา และคณะผู้วิจัยอธิบายวัตถุประสงค์และขั้นตอนในการทดสอบให้อาสาสมัครเข้าใจ
3. อาสาสมัครจับฉลากสุ่มเลือกกลุ่มการทดลองซึ่งมีด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ กลุ่มที่ยืดค้างไว้ 10 วินาที, กลุ่มที่ยืดค้างไว้ 20 วินาที และกลุ่มที่ยืดค้างไว้ 30 วินาที ซึ่งอาสาสมัครจะได้รับการทดลองคนละ 1 วิธีการ
4. ก่อนทำการยืดคงค้างที่กล้ามเนื้อหลังจะมีการวัดความยืดหยุ่นแบบ Sit and reach test ในผู้เข้าร่วมทดลองทุกคน
5. อาสาสมัครถูกแบ่งออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มละ 20 คน ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ให้การยืดเหยียดกล้ามเนื้อจากแรงภายนอกแบบค้างไว้ (Static Passive stretching) ในท่า Double Knee to Chest โดยทำค้างไว้ 10 วินาที, 5 ครั้ง โดยพัก 5 วินาที หลังทำการยืดแต่ละครั้ง
กลุ่มที่ 2 ให้การยืดเหยียดกล้ามเนื้อจากแรงภายนอกแบบค้างไว้ (Static Passive stretching) ในท่า Double Knee to Chest โดยทำค้างไว้ 20 วินาที, 5 ครั้ง โดยพัก 5 วินาที หลังทำการยืดแต่ละครั้ง
กลุ่มที่ 3 ให้การยืดเหยียดกล้ามเนื้อจากแรงภายนอกแบบค้างไว้ (Static Passive stretching) ในท่า Double Knee to Chest โดยทำค้างไว้ 30 วินาที, 5 ครั้ง โดยพัก 5 วินาที หลังทำการยืดแต่ละครั้ง
6. หลังจากทำการยืดคงค้างที่กล้ามเนื้อหลังจะมีการวัดความยืดหยุ่นแบบ Sit and reach test ในผู้เข้าร่วมทดลองทุกคนทันทีภายหลังการยืดกล้ามเนื้อแบบคงค้างสิ้นสุดลง
7. นำข้อมูลที่ได้จากการทดสอบมาวิเคราะห์หาค่าทางสถิติการศึกษาในครั้งนี้

สรุปผลการศึกษา
การยืดกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างและกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังในท่า Double Knee to chest ค้างไว้ที่ 30 วินาที จะทำให้มีผลต่อความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างและกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังดีที่สุดในนิสิตเพศชายมหาวิทยาลัยพะเยา อายุ 18-23 ปี ซึ่งผลการศึกษาครั้งนี้จะทำให้ทราบถึงเวลาในการยืดค้างที่เหมาะสมต่อการเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลังส่วนล่างและกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลัง เพื่อใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนให้โปรแกรมการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อที่ดีในโอกาสต่อไป ซึ่งจะช่วยในการส่งเสริมสุขภาพที่ดีและป้องกันความผิดปกติทางระบบกระดูกและกล้ามเนื้อ นอกจากนั้นยังป้องกันการบาดเจ็บจากการทำงานซึ่งเป็นบทบาทสำคัญของงานกายภาพบำบัดและยังอาจสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการรักษาและฟื้นฟูผู้ที่มีความยืดหยุ่นของกล้ามเนื้อหลังและกล้ามเนื้อต้นขาด้านหลังน้อยกว่าปกติได้